ภาษี… คำพูดสั้นๆ ที่ชวนให้หลายคนกุมขมับ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซับซ้อน และสำคัญที่ต้องทำให้ถูกต้อง
คำถามคือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำอย่างไรบ้าง? หนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยไขข้อข้องใจเรื่องภาษี นั่นก็คือ “แบบแสดงรายการภาษี” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อย่อๆ ว่า “ภ.ง.ด.” นั่นเอง และหนึ่งในแบบ ภ.ง.ด. ที่สำคัญมากๆ ก็คือ ภ.ง.ด.2
แล้ว ภ.ง.ด.2 คืออะไร? มีไว้ทำอะไร? ผู้ใดมีหน้าที่หัก ณ ที่จ่าย? และมีวิธีวิธีคำนวณหักภาษีเงินได้ณ ที่จ่ายอย่างไร? ชอบการบัญชีขอนำบทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ ภ.ง.ด.2 อย่างละเอียด เข้าใจง่าย พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนยื่นภาษี มาฝากกันค่ะ
ภ.ง.ด.2 คืออะไร? ผู้มีหน้าที่หัก ณ ที่จ่ายคือใคร?
ภ.ง.ด.2 คือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่นิติบุคคล (บริษัท ห้างหุ้นส่วน สมาคม มูลนิธิ ฯลฯ) ต้องยื่นต่อกรมสรรพากร กรณีมีการจ่ายเงินได้ประเภท 40(3) และ 40(4) ให้แก่บุคคลอื่นและชำระภาษีภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
ตัวอย่างการคำนวณ ภ.ง.ด.2
หากบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่นาย A ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 100,000 บาท บริษัทก็จะต้องหัก ณ ที่จ่าย 10% ตามกฎหมายสำหรับเงินปันผลจ่าย ดังนั้น ทางบริษัทจึงต้องจ่ายเงินให้นาย A เพียง 90,000 บาท ส่วนที่เหลือ 10% จำนวน 10,000 บาทนั้นจะถูกหักไว้ และนำส่งกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
เงินได้ประเภท 40(3) และ 40(4) คืออะไร?
เงินได้ประเภท 40(3) หมายถึง เงินได้พึงประเมินที่ได้มาในรูปแบบของ
- ค่าลิขสิทธิ์: ค่าตอบแทนที่ได้รับจากการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในงานอันมีลิขสิทธิ์ เช่น เพลง หนังสือ ภาพยนตร์
- ค่าตอบแทนทรัพย์สินทางปัญญา: ค่าตอบแทนที่ได้รับจากการถ่ายทอดกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สิ่งประดิษฐ์ เครื่องหมายการค้า
- ค่า Goodwill: ค่าตอบแทนที่ได้รับจากการซื้อกิจการ โดยมูลค่าเกินกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่แสดงในงบดุล
เงินได้ประเภท 40(4) หมายถึง เงินได้พึงประเมินที่ได้มาในรูปแบบของ
- ดอกเบี้ยเงินฝาก: ดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินฝากธนาคาร สหกรณ์ หรือสถาบันการเงินอื่นๆ
- ดอกเบี้ยพันธบัตร: ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการลงทุนในพันธบัตร
- ดอกเบี้ยตั๋วเงิน: ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการถือครองตั๋วเงิน
- เงินปันผล: เงินที่บริษัทจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นจากผลกำไร
- เงินส่วนแบ่งกำไร: เงินที่ห้างหุ้นส่วนจ่ายให้แก่หุ้นส่วนจากผลกำไร
วิธีคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
ให้คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินได้ทุกคราวที่จ่าย (โดยไม่ให้หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน) ตามอัตราภาษีเงินได้เว้นแต่
- เงินได้ดังต่อไปนี้ ให้คำนวณหักในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้
(1) การจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา40(3) (4) ดังกล่าวที่จ่ายให้แก่ผู้รับซึ่งมิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย
(2) ดอกเบี้ยพันธบัตร
(3) ดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์สำหรับเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรซึ่งผู้มีเงินได้ได้รับรวมกันทั้งสิ้น เกิน 20,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น (ต้องหัก ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยรับทั้งสิ้น) ดอกเบี้ยเงินฝากประเภทประจำสำหรับเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรและสหกรณ์
(4) ดอกเบี้ยหุ้นกู้ ดอกเบี้ยตั๋วเงิน0ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ดอกเบี้ยที่ได้จากสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม เช่น บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น
(5) ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนการเป็นหุ้นส่วน หรือโอนหุ้น หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตั๋วเงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก ทั้งนี้ เฉพาะที่ตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน
(6) ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก โดยให้ถือว่าผู้ออกตั๋วเงิน ผู้ออกตราสารแสดงสิทธิในหนี้หรือนิติบุคคลผู้โอนตั๋วเงินหรือตราสารดังกล่าว เป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน กรณีผู้จ่ายเงินได้มิใช่เป็นนิติบุคคล และจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) (ก) ที่มิใช่เงินได้ตามที่ระบุใน (2) ถึง (6) ดังกล่าว ข้างต้น ให้กับผู้รับซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทย (อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือหลายระยะเวลารวมกันถึง 180 วันในปีภาษี) ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
- เงินได้ที่เป็นเงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไร หรือประโยชน์อื่นใดฯ ตามมาตรา 40(4) (ข) ให้คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10.0 ของเงินได้
ช่องทางการยื่นแบบ ภ.ง.ด.2 มีอะไรบ้าง?
ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถยื่นแบบ ภ.ง.ด.2 แสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายได้สะดวก รวดเร็ว ตรงต่อเวลา ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
1. ยื่นแบบ ภ.ง.ด.2 ผ่านอินเทอร์เน็ต
- สะดวก รวดเร็ว ยื่นได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร https://efiling.rd.go.th/
- รองรับทั้งแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
- กรณีเป็นนิติบุคคล ต้องสมัครใช้บริการ e-Filing for Business เพิ่มเติม
- รองรับการชำระภาษีผ่านระบบ PromptPay
2. ยื่นแบบ ภ.ง.ด.2 ได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ
วิธีการกรอกเอกสาร ภ.ง.ด.2
ตามที่ได้กล่าวข้างต้น ภ.ง.ด. 2 เป็นแบบนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับเงินได้ประเภท 40(3) และ 40(4) ซึ่งมีวิธีการในการกรอกแบบดังต่อไปนี้
แบบ ภ.ง.ด. 2 หน้าที่ 1
ส่วนที่ 1 : ให้กรอกเลขผู้เสียภาษี รายละเอียดชื่อ ที่อยู่ของบริษัท เดือน ปีภาษีที่ยื่นแบบ และให้คลิกว่าเป็นการยื่นแบบปกติ หรือยื่นแบบเพิ่มเติม
ส่วนที่ 2 : ให้คลิกใบแนบของ ภงด 2 ที่ยื่นนั้นมีจำนวนกี่แผ่น
ส่วนที่ 3 : ให้เขียนรายละเอียด จำนวนราย จำนวนเงินได้ที่จ่ายทั้งสิ้น และจำนวนเงินภาษีที่นำส่งทั้งสิ้น
ส่วนที่ 4 : ให้เซ็นโดยผู้นำรับผิดชอบนำส่งหัก ณ ที่จ่าย
แบบ ภ.ง.ด. 2 หน้าที่ 2
ส่วนที่ 1 : ให้กรอกรายละเอียดเลขประจำตัวผู้เสียภาษี และให้ติ๊กว่าเงินได้ที่จ่ายเป็นเงินได้ประเภทใด ดังนี้
- เงินได้ตามมาตรา 40(3) ค่าแห่งลิขสิทธิ์ ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ และอื่นๆ
- เงินได้ตามมาตรา 40(4)ก ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยตั๋วเงิน และอื่นๆ
- เงินได้ตามมาตรา 40(4)ข เงินปันผล และอื่นๆ
- เงินได้ตามมาตรา 40(4)ช เงินผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนหุ้น และอื่นๆ
ส่วนที่ 2 : ให้กรอกรายละเอียดผู้ที่ถูกหัก ณ ที่จ่าย โดยให้กรอกเลขผู้เสียภาษี ชื่อ-นามสกุล ผู้ถูกหัก ณ ที่จ่าย วันเดือนปีที่จ่าย จำนวนเงินที่จ่าย จำนวนเงินหักภาษี ณ ที่จ่าย
ส่วนที่ 3 : ให้เซ็นโดยผู้นำรับผิดชอบนำส่งหัก ณ ที่จ่าย
สามารถดาวน์โหลดแบบ ภ.ง.ด. 2 ได้ที่ : กรมสรรพากร
กรณีไม่ยื่น ภ.ง.ด.2 ตามกำหนด จะมีโทษปรับอะไรบ้าง?
1.ถ้าผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายมิได้หักและนำเงินส่งหรือได้หักและนำเงินส่งแล้วแต่ไม่ครบจำนวนที่ถูกต้อง ผู้จ่ายเงินต้องรับผิดร่วมกับผู้มีเงินได้ในการเสียภาษีที่ต้องชำระตามจำนวนเงินภาษีที่มิได้หักและนำส่งหรือตามจำนวนที่ขาดไป แล้วแต่กรณี
ในกรณีที่ผู้จ่ายเงินได้หักภาษีไว้แล้ว ให้ผู้มีเงินได้ซึ่งต้องเสียภาษีพ้นความรับผิดที่ต้องชำระเงินภาษีเท่าจำนวนที่ผู้จ่ายเงินได้หักไว้และให้ผู้จ่ายเงินรับผิดชำระเงินภาษีจำนวนนั้นแต่ฝ่ายเดียว (มาตรา 54 แห่งประมวลรัษฎากร)
2.ถ้าผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ไม่นำเงินภาษีที่ตนมีหน้าที่หักนำส่งภายในกำหนดเวลา จะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องนำส่ง ทั้งนี้ ให้คำนวณเงินเพิ่มเป็นรายเดือน (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) นับแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบฯ จนถึงวันยื่นแบบฯ และนำส่งภาษี (มาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร) ถ้าผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไม่ยื่นแบบฯ ภายในกำหนดเวลา เว้นแต่จะแสดงว่าได้มีเหตุสุดวิสัย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท (มาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร)
3.ผู้ใดโดยเจตนาไม่ยื่นรายการที่ต้องยื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 37 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร)
สรุปแล้ว ภ.ง.ด.2 เป็นแบบแสดงรายการที่ช่วยให้กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ “นิติบุคคล” สามารถปฏิบัติตามกฎหมายภาษีได้อย่างถูกต้อง
ถึงแม้ภาษีจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ ภ.ง.ด.2 ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจ ขอเพียงศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน เตรียมเอกสารให้พร้อม และยื่นแบบแสดงรายการภาษีให้ตรงตามเวลาที่กำหนด ก็สามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง หลีกเลี่ยงปัญหาภาษีในอนาคต ที่สำคัญคือ การทำความเข้าใจเรื่องภาษี ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นอย่างแน่นอน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรง
อ้างอิง : กรมสรรพากร